รถสไลค์กระบี่ บริการรถสไลค์กระบี่ จ้างรถสไลด์กระบี่ หารถสไลค์กระบี่ รถยกรถสไลด์กระบี่ รถลากกระบี่ รถยกรถลากราคาถูกกระบี่ รถยกรถลากรถสไลด์กระบี่ รถสไลด์ราคาถูกกระบี่ รถสไลด์รถยกกระบี่ รถลากรถสไลด์กระบี่ เช่ารถสไลด์กระบี่ รถยกของกระบี่ ยกรถกระบี่ รถลากจูงกระบี่ รถยก24ชั่วโมงกระบี่ รถลากรถยกกระบี่ ขนส่งรถสไลด์กระบี่
ติดต่อใช้บริการ
จัดไฟแนนซ์รถยนต์ ซ่อมรถนอกสถานที่ รถรับจ้าง รถบรรทุก รถเฮียบ รถสไลด์ เช่ารถตู้รถบัส
ใช้รถยกขนย้ายรถยนต์มีข้อดียังไงนะ ? หากคุณจำเป็นต้องใช้บริการ ‘รถยก’ หรือ ‘รถสไลด์’ รถยกลากจูง เพื่อนำรถยนต์ของคุณเข้าอู่ หรือเข้าศูนย์ เพื่อซ่อมแซมรถยนต์จะมีข้อดีอะไรบ้าง ? เพราะเหตุใดถึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อยากรู้อ่านกันโล้ด! ข้อดีการใช้รถยกขนย้ายบริการรถสไลด์ มีดังนี้ - รถยก/รถสไลด์ เหมาะสำหรับรถยนต์ใหม่ รถซุปเปอร์คาร์ และรถโหลดต่ำซึ่งจะช่วยดูแลช่วงล่างของรถยนต์ได้เป็นอย่างดี - การใช้รถยกจะมีความปลอดภัยกับตัวรถยนต์ดีเยี่ยม มีระบบล็อคแน่นหนา ปลอดภัยในระหว่างการขนย้ายแน่นอน ไม่ทำให้ช่วงล่างของรถยนต์เสียหายด้วยล่ะ - การใช้รถยกนั้น เหมาะสำหรับบริการรถยนต์เสียหายหนัก และมีความจำเป็นต้องยกไปซ่อมอู่ซ่อมในระยะทางไกล ๆ ตั้งแต่ 20 กิโลเมตรขึ้นไป สำหรับวิธีการขนย้ายโดยรถยกรถสไลด์ จะเริ่มจากการยกรถยนต์ที่เสียหายขึ้นบนรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขึ้นไปวางทั้งคัน เหมือนเราจอดทิ้งไว้บนถาดสไลด์ ช่วยให้ช่วงล่างของรถยนต์ไม่สึกหรอ พร้อมกับยกรถทั้งคันไปยังจุดหมายปลายทาง เพื่อให้รถยนต์ปลอดภัยสูงสุดการดูแลรถยนต์เกียร์ธรรมดาควรปลดเบรคมือ ใส่เกียร์ว่าง ส่วนรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ จะต้องให้ทำการปลดเบรคมือออกก่อน เลื่อนเกียร์ไปที่เกียร์ว่าง พร้อมกับดับเครื่องยนต์ก่อนขนย้าย เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย ‘รถยก’ รถยกลากจูง สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้บริการ การให้บริการแบบที่มืออาชีพเขาทำกัน ในการให้บริการ รถยก รถยกลากจูง ก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วยเช่นกันนั่นคือ ในเรื่องของความเร็ว และความปลอดภัย ความเร็ว หมายถึง ผู้ให้บริการจะต้องพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการติดต่อจากลูกค้าต้องสามารถออกเดินทางได้ทันที และเดินทางไปถึงจุดที่นัดหมายกับลูกค้าให้เร็วที่สุด ความปลอดภัย หมายถึง การดูแลทรัพย์สินหรือรถยนต์ของลูกค้าให้ดี ไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมกว่าที่เป็นอยู่ หากมีความเสียหายเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบอย่างดีที่สุด เกี่ยวกับเครื่องหมายเครื่องมือในการยกรถก็มีการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือให้มีความทันสมัยมากขึ้นเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงรถคันใหญ่ๆ ที่มีเครนหรือแม่แรงห้อยอยูท้ายรถแค่นั้น หรืออย่างในรถสไลด์ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพียงรถสไลด์แล้วจบอยู่แค่นั้น ปัจจุบันผู้ให้บริการ รถยก หลายรายที่พัฒนาเครื่องมือหรือรถยกให้ดีขึ้น โดยในส่วนของการยกแบบช้อนล้อ จะมีการปรับไปใช้ระบบไฮโดรลิคทั้งหมด หรือในรถสไลด์จะมีการปรับปรุงถาดรับรถจากที่สามารถเลื่อนออกมารองรับรถได้แบบ 45 องศา ปัจจุบันมีแบบถาดนอน ที่สามารถเลื่อนลงไปอยู่ระนาบกับพื้นได้เลย มีข้อดีคือ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะเกิดการลื่นไถลขณะนำรถขึ้นถาดรับรถ เนื่องจากรถที่ต้องใช้บริการรถสไลด์ส่วนใหญ่เป็นรถที่มีปัญหาในการขับเคลื่อน หลายๆ คันไม่สามารถที่จะขับขึ้นได้แบบปกติ การลากหรือดึงรถขึ้นถาดที่มีมุมเอียงอาจมีความเสี่ยงที่รถจะลื่นหรือไถลตกลงมาได้ สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้บริการ รถยก ในเหตุการณ์เฉพาะหน้า โดยเฉพาะเวลากลางคืนในทางสายเปลี่ยว เราอาจไม่มีเวลาหรืออารมณ์ที่จะเลือกว่าจะใช้บริการกับใคร แต่หลังจากอ่านข้อมูลนี้แล้ว อาจหาข้อมูลของผู้ให้บริการที่น่าจะมีความเป็นมืออาชีพแล้วจดเบอร์เก็บไว้ก่อนก็ได้ สิ่งที่ควรรู้ซึ่งจะแนะนำต่อไปนี้บางอย่างเป็นเพียงแนวทางในการพิจารณาเบื้องต้นเท่านั้น – มีระบบ GPS ในการตรวจสอบรถที่ให้บริการ การใช้ GPS ของผู้ให้บริการใช้เพื่อวัตถุประสงค์สำคัญ 2 อย่างคือ เพื่อให้คนขับเดินทางไปถึงลูกค้าโดยเร็วที่สุด และใช้เพื่อควบคุมความเร็วขณะที่ยกรถของลูกค้าอยู่ ความเร็วที่ปลอดภัยที่สุดในการยกรถไม่ควรเกิน 80 กม./ชม. เนื่องจากเป็นความเร็วที่ไม่ช้าจนเกินไป และสามารถที่จะควบคุมรถได้หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น – รถกระบะรุ่นใหม่ๆ ไม่ควรยกแบบช้อนล้อ เป็นอีกหนึ่งคำแนะนำที่ผมได้รับจากพี่เจ้าของกิจการรถยกบอกกล่าวให้ทราบว่า รถกระบะรุ่นใหม่ๆ จะมไีมีคาดขวางด้านหน้าที่เชื่อมระหว่างแชสซีทั้ง 2 ข้าง หากลากแบบช้อล้อ แรงดึงและแรงฉุดลากอาจทำให้หม้อน้ำหรือส่วนของเครื่องยนต์เสียหายได้ ควรจะยกขึ้นรถสไลด์เท่านั้น
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอบ้านนาเดิมใช้ทางหลวงหมายเลข 44 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 783 กิโลเมตร -จากภูเก็ตการเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร
สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ผ่าน จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จนถึง จ.กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ถึง จ.ชุมพร แล้วต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เข้าสู่ อ.ไชยา อ.เวียงสระ จ.สุราษฏร์ธานี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4035 ถึง อ.อ่าวลึก แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้ง เข้าสู่ จ.กระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
เส้นทางที่3 จากจังหวัดภูเก็ต ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ทับปุด จ.พังงา เข้าสู่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระยะทาง 185 กิโลเมตร
2.รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน บริษัท ลิกไนท์ ทัวร์ สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง
3.เส้นทางรถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ลงได้ 3 สถานี คือ
1.สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร
2.ชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
3.สถานีรถไฟตรัง จ.ตรัง แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร
4.โดยเครื่องบิน
ปัจจุบันมีสายการบินภายในประเทศ คือ การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์
| หน้าที่เข้าชม | 3,989 ครั้ง | 
| ผู้ชมทั้งหมด | 3,410 ครั้ง | 
| เปิดร้าน | 22 มิ.ย. 2564 | 
| ร้านค้าอัพเดท | 31 ต.ค. 2568 | 
 7 รถสไลด์
			7 รถสไลด์
		 
					